วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โปรแกรมประยุกต์

Balabolka 2.2.0.504 โปรแกรมอ่านหนังสือให้คุณฟัง


Balabolka เป็นโปรแกรม Text-To-Speech (TTS) นั่นเอง ซึ่งโปรแกรมนี้คุณสามารถที่จะใช้เสียงอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ของคุณมาทำเป็นเสียงพูดได้ โปรแกรมนี้สามารถอ่านออกเสียงให้คุณได้จากแหล่งข้อมูลหลากหลายรูปแบบเช่น PDF , TEXT , Webpage รวมไปถึงไฟล์อื่นๆ อีกมากมายหลายหลากที่เป็นภาษาอังกฤษ โปรแกรมนี้อ่านออกหมดครับ นอกจากนั้นคุณยังสามารถพิมพ์ตัวหนังสือที่ต้องการให้โปรแกรมอ่านออกเสียงให้ ฟังเข้าไปในโปรแกรมได้โดยตรงอีกด้วย และคุณสามารถ Export ไฟล์เสียงที่โปรแกรมอ่านนั้นออกมาเป็นไฟล์เก็บไว้ได้ในรูปแบบต่างๆ อีกด้วยเช่น MP3 หรือ OGG หรือ WMA

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แผ่นพับ

เครื่องตรวจจับด้วยลำแสง







Photoelectric Sensor / Photo Switch( เครื่องตรวจจับด้วยลำแสง )(PM, OPTEX, SELET, WENGLOR, SMARTSCAN) » Safety Sensor » OA-203C OA-203C ยี่ห้อOPTEX
OA-203C OA-203C ยี่ห้อOPTEX Door Sensor/Photoelectric sensor/Photo sensor (เซนเซอร์ควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบอัตโนมัติ): ติดตั้งบริเวณเหนือประตูสูงสุดได้ถึง 3 m เอาต์พุตแบบรีเลย์คอนเทค 50V, 0.3A ขนาดกะทัดรัดติดตั้งได้ง่าย มี 3 สีให้เลือกซื้อ : สีดำ(OA-203CBL), สีเงิน(OA-203CS), สีขาว 

OA-203COA-203C ยี่ห้อOPTEXDoor Sensor/Photoelectric sensor/Photo sensor (เซนเซอร์ควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบอัตโนมัติ): ติดตั้งบริเวณเหนือประตูสูงสุดได้ถึง 3 m เอาต์พุตแบบรีเลย์คอนเทค 50V, 0.3A ขนาดกะทัดรัดติดตั้งได้ง่าย มี 3 สีให้เลือกซื้อ : สีดำ(OA-203CBL), สีเงิน(OA-203CS), สีขาว


OA-203C : Door Sensor/Photoelectric sensor/Photo sensor (เซนเซอร์ควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบอัตโนมัติ): ติดตั้งบริเวณเหนือประตูสูงสุดได้ถึง 3 m เอาต์พุตแบบรีเลย์คอนเทค 50V, 0.3A ขนาดกะทัดรัดติดตั้งได้ง่าย มี 3 สีให้เลือกซื้อ : สีดำ(OA-203CBL), สีเงิน(OA-203CS), สีขาว (ยี่ห้อOPTEX)
คุณสมบัติ- ควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบอัตโนมัติ
- ดิฟสวิตซ์เลือกตั้งค่าพื้นที่ในการเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ง่าย
- ติดตั้งบริเวณเหนือประตูสูงสุดได้ถึง 3 m.
- เอาท์พุทแบบรีเลย์คอนแทค 50V, 0.3A
- ขนาดเล็กกะทัดรัดติดตั้งได้ง่าย
- มี 3 สีให้เลือกซื้อ: สีดำ(OA-203CBL), สีเงิน(OA-203CS)

ลักษณะการนำไปใช้งาน- ติดตั้งเหนือประตูสำนักงาน , ห้างสรรพสินค้า , โรงแรม เป็นต้น
 ข้อมูลทางเทคนิค
Door Sensor/Photoelectric sensor/Photo sensor (เซนเซอร์ควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบอัตโนมัติ): ติดตั้งบริเวณเหนือประตูสูงสุดได้ถึง 3 m เอาต์พุตแบบรีเลย์คอนเทค 50V, 0.3A ขนาดกะทัดรัดติดตั้งได้ง่าย มี 3 สีให้เลือกซื้อ : สีดำ(OA-203CBL), สีเงิน(OA-203CS), สีขาว

ขนาดและรูปร่าง
Door Sensor/Photoelectric sensor/Photo sensor (เซนเซอร์ควบคุมการเปิด-ปิดประตูแบบอัตโนมัติ): ติดตั้งบริเวณเหนือประตูสูงสุดได้ถึง 3 m เอาต์พุตแบบรีเลย์คอนเทค 50V, 0.3A ขนาดกะทัดรัดติดตั้งได้ง่าย มี 3 สีให้เลือกซื้อ : สีดำ(OA-203CBL), สีเงิน(OA-203CS), สีขาว

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

โปรแกรมประยุกต์ ที่ใช้ในการแต่งภาพ โปรแกรม Photoshop

รู้จักกับโปรแกรม Photoshop 
 
โปรแกรม Photoshop เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สำหรับตกแต่งภาพถ่ายและภาพกราฟฟิก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และงานด้านมัลติมีเดีย อีกทั้งยังสามารถ retouching ตกแต่งภาพและการสร้างภาพ ซึ่งกำลังเป็นที่มนิยมสูงมากในขณะนี้ เราสามารถใช้โปรแกรม Photoshop ในการตกแต่งภาพ การใส่ Effect ต่าง ๆให้กับภาพ และตัวหนังสือ การทำภาพขาวดำ การทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน การนำภาพมารวมกัน การ Retouch ตกแต่งภาพต่าง
  
Tip & Trick : มีความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำเนิดของโปรแกรม Photoshopค่ะ จุดกำเนิดของโปรแกรม Photoshop หลายคนคงคิดว่า Photoshop เกิดมาจากทีมโปรแกรมเมอร์ของ Adobe แต่จริงๆ มันถูกสร้างโดยสองพี่น้องนักศิกษาปริญญาเอก กับพนักงานของ ILM ต่างหาก
พี่น้องคู่นี้คือ Thomas Knoll นักศึกษาปริญญาเอกที่ University of Michigan ในขณะนั้น เขาทำโปรแกรมแสดงผลกราฟิกบน Mac Plus โดยใช้ชื่อว่า Display เมื่อน้องชายของเขาคือ John ซึ่งเป็นนักถ่ายภาพสมัครเล่น และทำงานที่ ILM มาเห็นโปรแกรมเข้า ก็บอกว่ามันเหมือนกับโปรแกรม Pixar Image Computers (สมัยที่ Pixar ยังอยู่กับ LucasFilm และยังไม่ทำหนัง) ทั้งสองคนจึงมองเห็นโอกาสธุรกิจ 
  

Display เพิ่มความสามารถในการแปลงภาพเข้ามาตามที่ John เห็นสมควร ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น ImagePro และไปเร่ขายตามบริษัทซอฟต์แวร์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายมาเจอกับ Adobe และก็กลายเป็น Photoshop ที่เรารู้จักกันจนทุกวันนี้
หมายเหตุ: Adobe สร้างตัวเองขึ้นมาจาก PostScript, ฟอนต์แบบ Type 1 และ Illustrator ค่ะ




Raster / Vector และ Pixel 
 
ภาพบนคอมพิวเตอร์ หรือกราฟิคคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือ ภาพแบบบิตแมป (bitmap) และภาพแบบเวกเตอร์(vector) ความเข้าใจความแตกต่างของกราฟิค ทั้งสองประเภทจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และตรงตาม จุดประสงค์สูงสุดในการใช้งาน
  
Vector Graphic
ภาพแบบเวกเตอร์จะต่างจากภาพแบบบิตแมป ซึ่งคุณจะได้พบกับภาพแบบนี้บนโปรแกรม สำหรับวาดภาพเช่น Adobe Illustrator,Macromedia Freehand ภาพแบบเวกเตอร์จะประกอบด้วย เส้นสาย ลวดลายต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ของลักษณะทางเรขาคณิตเพื่อ สร้างรูปทรงต่าง ๆ ที่คุณเห็น ซึ่งเรียกว่าเวกเตอร์ (vectors)
ข้อดีของภาพแบบเวกเตอร์ที่มีเหนือภาพแบบบิตแมป คือ คุณสามารถเคลื่อนย้าย ปรับขนาด เปลี่ยนสี รูปทรง โดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพ เพราะภาพแบบเวกเตอร์ เป็นภาพที่ไม่ขึ้นกับ ความละเอียด นั่นคือสามารถปรับขนาดและพิมพ์ที่ความละเอียดใด ๆ โดยไม่สูญเสียรายละเอียด และคุณภาพ ดังนั้นภาพแบบเวกเตอร์จึงเหมาะกับภาพลายเส้นต่าง ๆ เช่น ตัวอักษร โลโก้

  
Raster Graphic
โปรแกรมปรับแต่งภาพส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในท้องตลาดทุกวันนี้ มักจะทำงานกับภาพแบบบิตแมป หรือที่เรียกกันว่าแบบราสเตอร์ (raster) ภาพแบบบิตแมปนี้จะใช้ กริดของตารางเล็ก ๆ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “พิกเซล” (pixel) สำหรับแสดงภาพ แต่ละพิกเซลก็จะมีค่าของตำแหน่งและค่าสีของตัวเอง ด้วยเหตุที่พิกเซลมีขนาดเล็กเราจึงเห็นว่าภาพ มีความละเอียดสวยงามไม่มีลักษณะของกรอบสี่เหลี่ยมให้เห็น แต่ถ้าเราขยายขนาดของภาพ ก็จะเห็นกรอบเล็ก ๆ หรือพิกเซลที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นภาพ ดังนั้นนเมื่องคุณทำงานกับภาพแบบมิตแมป จึงเป็นทำงานกับพิกเซลเล็ก ๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นภาพ ไม่ใช่วัตถุหรือรูปทรงที่เห็น ภาพแบบบิตแมปเป็นภาพที่ขึ้นอยู่กับความละเอียด (resolution)
นั่นคือ มีจำนวนพิกเซลที่แน่นอนในการแสดงภาพ ดังนั้นจากตัวอย่างในภาพที่ 1 คุณจะเห็นว่าเมื่อภาพถูกขยาย หรือพิมพ์ด้วยความละเอียดไม่มากพอภาพจะสูญเสียรายละเอียด และปรากฏเป็นรอยหยักอย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามภาพแบบบิตแมป ถือเป็นรูปแบบที่เหมาะกับภาพที่มีเฉดและสีสันจำนวนมาก เช่น ภาพถ่าย หรือภาพวาด
 
Pixel
พิกเซล (Pixel) เป็นการผสมผสานของคำว่า “Picture” และ “element” คือหน่วย พื้นฐานของภาพ ภาพบิตแมปทุก ๆ ภาพประกอบขึ้นด้วยพิกเซล แต่ละพิกเซลจะมีลักษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมที่เก็บข้อมูลของสีโดยถูกกำหนตำแหน่งไว้บนเส้นกริดของแนวแกน x และ y ในลักษณะคล้ายแผนที่ (map) นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่าบิตแมป (bitmap) เช่น พิกเซลของ ภาพ 8 บิต จะเก็บข้อมูลของสี 8 บิต ที่จอภาพจะใช้ในการแสดงผล ดังนั้นภาพภาพหนึ่งจึงประกอบด้วยพิกเซลเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้เมื่อ ขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จำนวนของพิกเซล

ที่แสดงต่อหน่วยของความยาวในภาพจะถูกเรียกว่าความละเอียด ของภาพ โดยปกติจะวัดเป็นพิกเซลต่อนิ้ว (ppi : pixel per inch) ภาพที่มีความละเอียดสูงจะประกอบไปด้วยพิกเซลจำนวนมากที่มีขนาดเล็กกว่าภาพเดียวกันที่มีความละเอียดน้อยกว่า ตัวอย่าง เช่น ภาพขนาด 1 x 1 นิ้ว ที่ความละเอียด 72 ppi จะประกอบด้วยพิกเซล 5,184 พิกเซล (ความกว้าง 72 พิกเซล x ความยาว 72 พิกเซล = 5,184) และภาพเดียวกันที่ความละเอียด 300 ppi จะประกอบด้วยพิกเซล 90,000 พิกเซลที่มีขนาดของพิกเซลเล็กกว่า (300 x 300 = 90,000) แน่นอน ว่าภาพที่มีความละเอียดมากกว่าก็จะใช้พื้นที่ในการจัดเก็บมากกว่า


ส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรม Photoshop 
 
  
หน้าจอของโปรแกรม Photoshop ประกอบไปด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. สัญลักษณ์ของโปรแกรม Photoshop
2. แถบเมนู ( Manu Bar )
3. ปุ่มควบคุมการทำงาน
4. แถบกำหนดรูปแบบของเครื่องมือที่ใช้งาน ( Tool Option Bar )
5. กล่องเครื่องมือ ( Tool Box )
6. Palette ที่รวบรวมคุณสมบัติของการทำงานต่างๆ เช่น Navigator , Color , Layer , History เป็นต้น
7. พื้นที่ทำงาน


การเปลี่ยนภาพเป็นภาพศิลปะ 
Photocopy เป็นคำสั่งย่อยของเมนู Filter > Sketch 

จะทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงานให้กลายเป็นภาพในลักษณะของภาพวาดหยาบๆ หรือภาพร่างหรือภาพที่วาดจากดินสอชนิดต่างๆ

ในคำสั่ง Filter > Sketch จะมีคำสั่งย่อยอีก 14 คำสั่ง ซึ่งจะทำหน้าที่แต่งต่างกันออกไป
รูปต้นแบบSketch > Bas ReliefSketch > Chalk & CharcoalSketch > Charcoal

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 
    
Sketch > ChromeSketch > Conte CrayonSketch > Graphic PenSketch > Halftone Patten


Photocopy Filter 

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 
    
Sketch > Note PaperSketch > PhotocopySketch > PlasterSketch > Reticulation

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 

Photocopy Filter 
    
Sketch > StampSketch > Tom EdgesSketch > Water Paper 
การทำภาพเบลอ 
Filter ในกลุ่มของ Blur Filter นั้นจะเป็นกลุ่ม Filter ที่ทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงานให้เกิดความพร่ามัว

รูปต้นแบบBlur > BlurBlur > Blur MoreBlur > Gaussian Blur

Blur Filter

Blur Filter

Blur Filter

Blur Filter
    
Blur > Lens BlurBlur > Motion BlurBlur > Radial BlurBlur > Smart Blur

Blur Filter

Blur Filter

Blur Filter

Blur Filter

 























 









 





















 



สรุปกลุ่มคำสั่งของ ของ Filter 
Filter เป็นคุณสมบัติเด่นอย่างหนึ่งในการทำงานกับโปแกรม Photoshop โดยมันจะทำหน้าที่เป็นตัวปรับแต่งภาพให้มีลักษณะที่พิเศษออกไป ซึ่งใน Photoshop ก็มี Filter แบบต่าง ๆ ให้เราเลือกใช้งานมากมายนับร้อยชนิด สำหรับในบทนี้เราจะมาดูถึงการใช้งาน Filter กันค่ะ
filter
ในโปรแกรม Photoshop นั้น จะมี Filter แบบต่างๆ มากมายหลายชนิดเตรียมเอาไว้ให้เราใช้งาน โดย Filter ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ใน Menu Filter ซึ่งการจัดเก็บจะแบ่งกลุ่มของ Filter ออกเป็นหัวข้อย่อยๆ ให้้ลือกใช้งานตามต้องการ
filter เมื่อเราคลิกเลือกในหัวข้อใดๆ ก็ตามใน Memu Filter ( ในส่วนของ Filter ที่มีให้เราใช้งานนะค่ะ ) จะมีตัวเลือกย่อยแสดงขึ้นมาให้เราเลือก Filter ใช้งานค่ะ
เรามารู้ว่าแต่ละส่วนของ Menu Filter ใช้ทำอะไรกันบ้าง

1. Artistic Filter

           Filter ในกลุ่มของ Artistic Filter จะทำหน้าที่ในการปรับเเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงานให้กลายเป็นภาพในลักษณะของภาพเขียนทางศิลปะ 
 
รูปต้นแบบArtistic > Colored PencilArtistic > CutoutArtistic > Dry Brush
Artistic Filter Artistic Filter Artistic Filter

Artistic Filter
    
Artistic > Film GrainArtistic > FescoArtistic > Neon GlowArtistic > Paint Daubs

Artistic Filter

Artistic Filter

Artistic Filter

Artistic Filter
    
Artistic > Palette KnifeArtistic > Plastic WarpArtistic > Poster EdgesArtistic > Pastels
Artistic Filter Artistic Filter Artistic Filter
Artistic Filter
    
Artistic > Smudge StickArtistic > SpongeArtistic > UnderpaintingArtistic > Watercoler
Artistic Filter Artistic Filter Artistic Filter
Artistic Filter
    

***ในส่วนนี้ข้อทำตัวอย่างแค่ Artistic Filter นะค่ะ

2. Blur Filter 
           Filter ในกลุ่มของ Blur Filter นั้นจะเป็นกลุ่ม Filter ที่ทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงานให้เกิดความพร่ามัว

3. Brush Strokes Filter

           Filter ในกลุ่มของ Brush Strokes Filter นั้น จะเป็นกลุ่ม Filter ที่ทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงานให้กลายเป็นภาพในลักษณะของภาพที่เขียน หรือแต่งด้วยแปรงระบายสี

4. Distort Filter

           Filter ในกลุ่มของ Distort Filter จะทำหน้าที่ในการบิดเบือนตำแหน่งของ Pixel ของภาพทำให้ภาพดูบิดเบี้ยว หรือการเปลี่ยนแปลงรูปทรง

5. Noise Filter 
           Filter ในกลุ่มของ Noise Filter จะทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในเป็นจุดหรือเม็ด Noise แทรกขึ้นมาในภาพ

6. Pixelate Filter

           Filter ในกลุ่มของ Pixelate Filter จะทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนจุด Pixel ของภาพให้เป็นไปในลักษณะต่างๆ ทำให้ภาพในพื้นท่นั้นเกิดความเปลี่ยนแปลง

7. Render Filter

           Filter ในกลุ่มของ Render Filter จะทำหน้าที่ในการประมวลผลภาพใหม่ เช่นการกำหนดแสงใหม่ให้กับภาพ

8. Sharpen Filter

           Filter ในกลุ่มของ Sharpen Filter จะทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนความคมชัดของภาพ

9. Sketch Filter

           Filter ในกลุ่มของ Sketch Filtet จะทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงานให้กลายเป็นภาพในลักษณะของภาพวาดหยาบๆ หรือภาพร่างหรือภาพที่วาดจากดินสอชนิดต่างๆ

10. Stylize Filter

           Filter ในกลุ่มของ Stylize Filter จะทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพให้มีลักษณะโดยรวมของภาพแตกต่างกันออกไป

11. Texure Filter

           Filter ในกลุ่มของ Texure Filter จำทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนภาพในพื้นที่ทำงาน โดยจะทำการเพิ่มส่วนที่เป็นลวดลายพื้นผิวลงในภาพ
 
 

Copyright ⓒ 2009 edu-mine All Rights Reserved.
For more information, please contact  brainny_design@hotmail.com





































































































วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

GPS ระบบติดตามตัวและคนหาตำแหน่งนำทาง

What 's GPS

ความหมาย จีพีเอส (GPS)
จีพีเอส (GPS) มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Global Positioning System หมายถึง ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก
 โดยใช้วิธีการคำนวณตำแหน่งพิกัดภูมิศาสตร์ของอุปกรณ์รับสัญญาณ จากค่าตำแหน่งพิกัดจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก
 ที่ส่งผ่านสัญญาณนาฬิกามายังโลก

จีพีเอส เป็นระบบนำร่องโดยอาศัยคลื่นวิทยุและรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVSTAR (NAVigation Satellite Timing and Ranging) 
จำนวน 24 ดวงที่โคจรอยู่เหนือพื้นโลก สามารถใช้ในการหาตำแหน่งบนพื้นโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ทุกๆ จุดบนผิวโลก

GPS (Global Positioning System) เป็นระบบดาวเทียม NAVSTAR ที่ออกแบบและจัดสร้างโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา 
เพื่อใช้ในการนำหน (Navigation) มีวัตถุประสงค์ในการออกแบบคือ
1) เพื่อให้มีผู้ใช้ประโยชน์ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนได้เป็นจำนวนมาก
2) เพื่อเครื่องรับและอุปกรณ์ใช้งานได้ง่ายและมีราคาต่ำ
3) เพื่อใช้ได้สะดวกไม่มีข้อจำกัด นั่นคือ ใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ขึ้นกับสภาพ ภูมิอากาศและสถานที่
4) ให้ความถูกต้องทางตำแหน่งตามเงื่อนไขที่ฝ่ายทหารกำหนด 
GPS เป็นเพียงระบบหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ที่เราเรียกระบบนี้ว่า GNSS หรือ Global Navigation Satellite System 
ซึ่งยังมีอีกหลายระบบที่อยู่ในกลุ่มนี้ เช่น

 NAVSTAR – USA นิยมเรียกว่า GPS GLONASS —
 Russia Galileo - European Union Beidou —
 China QZSS – Japanese IRNSS—
 Indian Regional Navigational Satellite System -India

องค์ประกอบของ GPS


จีพีเอส (GPS) มีหลักการทำงานโดยอาศัยคลื่นวิทยุ และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVSTAR จำนวน 24 ดวง ที่โคจรอยู่รอบโลก
วันละ 2 รอบและมีตำแหน่งอยู่เหนือพื้นโลกที่ความสูง 20,200 กิโลเมตร สามารถใช้ในการหาตำแหน่งบนพื้นโลกได้
ตลอด 24 ชั่วโมงที่ทุกๆ จุดบนผิวโลก ใช้นำร่องจากที่หนึ่งไปที่อื่นตามต้องการ ใช้ติดตามการเคลื่อนที่ของคนและสิ่งของต่างๆ
 การทำแผนที่ การทำงานรังวัด (Surveying) ตลอดจนใช้อ้างอิงการวัดเวลา

GPS ใหม่ล่าสุดจาก GARMIN รุ่น nüvi 215W
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการระบบภูมิสารสนเทศแบบครบวงจร หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี ได้ เปิดตัวเครื่องนำทาง GPS ใหม่ล่าสุดจาก GARMIN รุ่น nüvi 215W GPS อัจฉริยะที่เพรียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่จะทำให้การเดินทางไม่ว่าในเมืองหรือระหว่างท่องเที่ยวของคุณมีสีสันมากขึ้น ด้วยภาพจำลองแยกเสมือนจริง หรือ Junction View ฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุดของ GARMIN ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องสับสนกับการเปลี่ยนเลนกระทันหันอีกต่อไป มี Bluetooth ช่วยในการติดต่อของคุณไม่ติดขัด โดยใช้ nüvi 215W แทนอุปกรณ์ hand free ของคุณสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ได้อีกด้วย nüvi 215W มาพร้อมเมนูภาษาไทย ใช้งานง่าย และ แผนที่เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ ESRI Thailand Street Map (TSM) 9.0 ที่มี จุดสนใจมากกว่า 500,000 จุดทั่วประเทศ เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, สนามกอล์ฟ พร้อมทั้งสามารถบันทึกตำแหน่งส่วนตัวได้ 1,000 จุดอีกด้วย